นักสืบเอกชนบางครั้งอาจทำงานร่วมกับตำรวจหรือหน่วยงานรัฐในกรณีที่จำเป็น เช่น การหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีสำคัญ แต่ต้องมีการประสานงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
บริษัทนักสืบที่ดีควรมีนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด รวมถึงสัญญาว่าจ้างที่ระบุว่าข้อมูลของลูกค้าจะถูกปกปิดเป็นความลับ
เทคโนโลยีที่ใช้ เช่น GPS Tracker, กล้องวงจรปิดแบบพกพา, การวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ และซอฟต์แวร์สำหรับติดตามพฤติกรรมดิจิทัล
ได้ แต่ต้องทำในขอบเขตที่ไม่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของอีกฝ่าย และควรปรึกษานักสืบเกี่ยวกับข้อจำกัดทางกฎหมายในกรณีนี้
เริ่มต้นจากการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ลงทุนในเทคโนโลยีที่จำเป็น จัดตั้งบริษัทอย่างถูกต้อง และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เช่น ทนายความหรือบริษัทประกัน
นักสืบเอกชนต้องไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เช่น การบุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวหรือดักฟังโทรศัพท์ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละประเทศ
กรณีที่ควรจ้าง เช่น การตามหาบุคคลสูญหาย การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางธุรกิจ หรือการสืบสวนในคดีที่ซับซ้อน